7 สิ่งที่จะทำให้คุณ ค้นพบคุณค่าชีวิต ที่ขาดหายไป
คุณค่าในชีวิตคุณคืออะไร หลายคนถูกปลูกฝังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันว่า “ค่าของคน อยู่ที่ผลของงาน”
ตั้งใจเรียนหนังสือเก่ง ๆ จบมาจะได้งานดี ๆทำ ทำงานดี ๆ ตำแหน่งสูง ๆ เพื่อให้มีชีวิตที่ดี มีความเป็นอยู่ที่ดี
ชีวิตเราถึงจะมีคุณค่า ความจริงที่คุณอาจไม่รู้ก็คือ บางคนรายได้เดือนละล้าน มีรถสามคัน มีบ้านสามหลัง มีธุรกิจใหญ่โต
แต่ไม่เคยสัมผัส หรือ มองเห็นคุณค่าภายในเลยแม้แต่วันเดียว ประสบความสำเร็จเรื่องภายนอกแต่ภายในกลับกลวงโบ๋
เพราะเขาเข้าใจว่า การทำงานหนัก หาเงินตัวเป็นเกลียว หัวเป็นน็อต มีบ้าน มีรถ มีชื่อเสียงเงินทอง
ผลลัพธ์แบบนั้นจะทำให้ชีวิตมีคุณค่า แต่สิ่งที่ผมจะบอกคุณก็คือ… นั่นไม่ใช่คุณค่าที่แท้จริงของชีวิต ถ้าคุณอยากรู้ว่า คุณค้นพบคุณค่าในชีวิตที่แท้จริงหรือไม่ ให้คุณวัดจากวงล้อสมดุลชีวิตดังต่อไปนี้
1)ด้านสุขภาพ
ถ้าคุณอยากค้นพบคุณค่าในชีวิตของตัวเอง “คุณต้องดูแลสุขภาพ”
น่าแปลกที่เรื่องสุขภาพเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด แต่เรากลับให้ความสำคัญน้อยที่สุด
สาเหตุเป็นเพราะ เราคิดว่าเรายังเด็ก เราอายุยังน้อย เรายังมีแรง มีกำลัง เรายังฟิต ทำงานหามรุ่งหามค่ำ ชิลๆยาวไป
สุดท้ายระวังจะโดนหามขึ้นเมรุ คุณอาจจะค้านว่า ฉันเป็นคนรักสุขภาพ ถ้าคุณบอกว่าคุณรักสุขภาพจริง
คุณคงไม่ปล่อยให้ตัวเองอ้วนจนได้ฉายา “พุงนำนม” หรอกจริงไหม ทุกครั้งที่คุณป้อนอาหารเข้าปาก ไม่ใช่แค่เพียงรสชาติยั่วจนน้ำลายไหล หรืออาหารจานโปรด บุฟเฟ่ต์หมูกระทะ ซูชิปลาแซลม่อน
แต่ทุกคำที่ตักเข้าปากให้คุณถามตัวเองเสมอว่า “ฉันกินมะเร็ง หรือ ฉันกินของที่มีประโยชน์ ต่อร่างกายจริงๆกันแน่”
2) สัมพันธภาพ
สัมพันธภาพเป็นสายใยสำคัญที่ส่งผลให้ ชีวิตของคุณมีคุณค่า
เริ่มจากคนใกล้ตัวคุณที่สุด ครอบครัว พ่อแม่ พี่น้อง ลุงป้า น้าอา ปูย่า ตายาย
ขยายวงออกมาคือ เพื่อนสมัยเรียน แฟน ครูอาจารย์
ขยายวงออกมาอีก เป็นเพื่อนร่วมงาน หัวหน้า เจ้านาย ลูกน้อง ลูกค้า คอนเน็กชั่น
คนเหล่านี้ล้วนเติมเต็มคุณค่าในชีวิตคุณทั้งสิ้น
เพราะฉะนั้นถ้าวันนี้ ความสัมพันธ์ของคุณสั่นคลอน หรือ ระหองระแหงไม่รื่นรมย์
รีบปรับความเข้าใจ เร่งแก้ไขปัญหาโดยด่วน เพราะการรักษาสัมพันธภาพที่เหนียวแน่น อาจนำพาคุณไปพบสิ่งที่คุณต้องการได้ในอนาคตอันใกล้
3)การงาน
คงไม่มีใครปฏิเสธว่า งานเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ชีวิตเราเติมเต็มและมีคุณค่า
เคยมีการทดลองเกี่ยวกับพฤติกรรมมนุษย์ในเรือนจำแห่งหนึ่งของอเมริกา
โดยการนำตัวนักโทษสองคน มาขังไว้ในห้อง แยกกันสองห้อง ห้องที่หนึ่ง
ผู้คุมประกาศว่า ไม่ต้องทำอะไร ให้นั่งเฉยๆ แล้วคอยสังเกตพฤติกรรมตลอด 30 วัน
ถึงเวลาเอาข้าว เอาน้ำมาให้กิน ห้องที่สอง ผู้คุมประกาศว่า จะมีงานให้ทำ ถูพื้นบ้าง เช็ดกระจกบ้าง วาดกราฟิกที่ผนังบ้าง ออกแบบเสื้อผ้าบ้าง วาดการ์ตูนบ้าง ฝึกภาษาต่างประเทศบ้าง
และเมื่อเขาทำกิจกรรมเสร็จในแต่ละวัน ผู้คุมจะชื่นชมทุกครั้งว่า “เก่งมาก ยอดเยี่ยมมาก เจ๋งสุดๆ” ตลอด 30 วัน
หลังจบการทดลอง สรุปผลได้ว่า นักโทษชายห้องแรก แสดงพฤติกรรมหดหู่ เศร้าหมอง ก้าวร้าว ทำลายข้าวของ จนถึงทำร้ายตัวเอง
นักโทษชายห้องที่สอง มีความประพฤติดี มีความหวัง มีแรงบันดาลใจ ที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นคนใหม่ และเขาพร้อมที่จะกลับออกไปสู่โลกแห่งความเป็นจริงอีกครั้ง
สิ่งที่ผมเล่า ผมกำลังจะบอกคุณว่า มนุษย์เราจะรู้สึกว่าตัวเรามีคุณค่า ก็ต่อเมื่อ ได้ลงมือทำอะไรบางอย่างจนประสบความสำเร็จด้วยตัวเอง สิ่งนี้ถูกนิยามออกมาให้เข้าใจตรงกันจนถึงปัจจุบันก็คือคำว่า “งาน” คุณเห็นคุณค่าในงานที่คุณกำลังทำอยู่หรือไม่
4)การเงิน
ลองจินตนาการว่า โลกนี้ไม่จำเป็นต้องใช้เงิน คุณยังจะนั่งทำงานหนักเหมือนทุกวันนี้อยู่หรือไม่
คำตอบก็คงไม่ แต่คุณค่าที่แท้จริง ที่ผมจะบอกคุณก็คือ “เงินสำคัญถ้าเรื่องนั้นต้องใช้เงิน เงินไม่สำคัญ ถ้าเรื่องนั้นไม่จำเป็นต้องใช้เงิน ถ้าคุณรู้จักใช้สมอง” ที่ผ่านมาถ้าคุณยึดเอาเงินเป็นตัวตั้ง ต้องมีเงิน ต้องมีเงิน ต้องมีเงิน ถึงจะทำเรื่องโน่นนี่นั่นได้
วันนี้ผมอยากให้คุณลอง เปลี่ยนความคิดใหม่ว่า… ถ้าพักเรื่องเงินไว้ก่อน แล้วคุณลองใช้เครื่องมือตัวอื่น ใช้ความสามารถ ใช้พลังสมองคุณให้เต็มที่ คุณยังจะทำสิ่งที่คุณต้องการได้สำเร็จอยู่หรือไม่
ท้าทายตัวเองสุดๆ เช่น การเจรจาต่อรอง การเปลี่ยนไอเดียเป็นทุน การเปิดรับพาร์ทเนอร์ร่วมธุรกิจ การเป็นตัวแทน การใช้คอนเน็กชั่น การใช้ความคิดสร้างสรรค์ การใช้ทรัพยากรคนอื่น เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณฝึกใช้สมองสั่งเงิน เงินจะวิ่งหาคนที่มีไอเดียดีๆเสมอ
5) จิตใจ
พลังแห่งความเชื่อ ความศรัทธา เป็นพลังเร้นลับในร่างกาย ที่แม้แต่วิทยาศาสตร์ก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่าคืออะไร
คนที่มีชื่อเสียงระดับโลก ล้วนฝึกฝนและเป็นผู้สร้างพลังแห่งความเชื่อความศรัทธาให้เกิดขึ้นมาในตัวของเขาจนประสบความสำเร็จ
ไม่ว่าจะเป็น อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ , สองพี่น้องตระกูลไรท์ , สตีฟ จ็อบส์ , เฮนรี่ ฟอร์ด , โทมัส อัลวา เอดิสัน ฯลฯ
คุณค่าทางจิตใจเป็นสิ่งที่เติมเต็มภายในได้ดีที่สุด ก่อนที่คุณจะทำอะไรก็ตาม ถ้าคุณไม่อยากสูญเสียเวลา เสียพลังงานชีวิต ไปโดยเปล่าประโยชน์
จงถามตัวเองทุกครั้งว่า “สิ่งที่ฉันกำลังทำ เริ่มทำไปบ้างแล้ว กำลังจะลงมือทำ มันเติมเต็มจิตวิญญาณของฉันหรือไม่”
ถ้าใจคุณบอกว่าใช่… ลุย!!!
6) ภารกิจ (Mission)
คุณค่าของชีวิตที่คนส่วนใหญ่ ไม่เคยใส่ใจ หรือ ไม่เคยคิดว่าฉันควรมีด้วยหรอ
กลับกัน เรากลับค้นพบสิ่งนี้ในคนส่วนน้อยที่ประสบความสำเร็จทั่วโลก สิ่งนั้นก็คือ ภารกิจ (Mission)
สิ่งที่คุณต้องการจะทำ สิ่งที่คุณตั้งใจว่าชีวิตนี้ ฉันต้องทำให้สำเร็จให้ได้ ฉันเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ โลกต้องจดจำฉันเรื่องนี้ ฉันเกิดมาเพื่อเขย่าโลก ไม่ใช่เพื่อตัวคุณเอง
แต่เป็นเรื่องที่คุณตั้งใจสร้างอะไรบางอย่างที่ส่งผลกระทบกับคนส่วนใหญ่ ได้ช่วยเหลือ ได้ค้นพบหนทางที่ดีกว่า ได้แบ่งปัน ได้เป็นผู้นำในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ซึ่งใช้ความสามารถเฉพาะตัวของคุณ ใช้สติปัญญาของคุณ สร้างผลงาน สร้างทีมงาน ทำให้ภารกิจนั้นสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
“ยิ่งคุณช่วยเหลือผู้คนได้มากเท่าไหร่ คุณยิ่งประสบความสำเร็จ และเติมเต็มคุณค่าในชีวิตมากขึ้นเท่านั้น”
ช่วยเล่าให้ผมฟังหน่อยสิครับว่า ภารกิจของคุณคืออะไร
7) ความหลงใหล (Passion)
หัวใจสำคัญที่คุณควรยึดเป็นหลักไว้ก็คือ PASSION เพราะมันจะช่วยไม่ให้คุณหลงทางไหลไปตามกระแสของคนอื่น
จากข้อ 1-6 ก่อนที่คุณจะตัดสินใจลงมือทำอะไรก็ตาม ให้คุณย้อนกลับมาที่แก่นของคุณเสมอ
หาแก่นให้เจอแล้ว ตรึกตรอง พิจารณา วิเคราะห์ดูว่า เส้นทางที่ฉันจะเดินไปนั้น มันสอดคล้องกับ PASSION ทั้งหกด้านของฉันหรือไม่ หรือ ฉันกำลังตามกระแสของคนอื่นอยู่
หมั่นฟังเสียงหัวใจตัวเอง เดินตามกลิ่นความสุขทุกวัน ในทุกการตัดสินใจที่เด็ดขาด
ใครก็ตามที่มีแก่น มีหลักยึดในการดำเนินชีวิต เขาคนนั้นจะประสบความสำเร็จได้ไว ตัดสินใจได้เร็ว
เพราะเขาจะตอบตัวเองได้ทันทีเลยว่า “ทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมา ฉันกำลังเดินตาม PASSION ของฉันอยู่หรือไม่”
ถึงเวลาออกแบบ วงล้อสมดุลชีวิตของตัวคุณเอง ถ้าคุณอ่านมาถึงตรงนี้
ผมต้องบอกความจริงที่อาจไม่ลื่นหูกับคุณว่า “วงล้อสมดุลชีวิตของคุณ” ถูกออกแบบมาเพื่อตัวคุณคนเดียวเท่านั้น!!
อย่าคาดหวังให้วงล้อของคุณเหมือนของคนอื่น
ขนาดรูปร่างหน้าตาคุณ ยังไม่เหมือนคนอื่นเลย
แล้วเราจะไปคาดหวังให้วงล้อของเราเหมือนคนอื่นได้ยังไง จริงไหม?
ชีวิตของคุณ คุณค่าของคุณ สิ่งที่จะเติมเต็มชีวิตคุณ
จะไม่เหมือนใครเลยบนโลกใบนี้
ทุกคนต่างมีแนวทาง ต่างค้นพบชีวิตที่ใช่ ของตัวเองด้วยกันทั้งสิ้น
คุณไม่จำเป็นต้องเป็นนักเพาะกาย ถึงจะเรียกว่า มีสุขภาพดี
คุณไม่จำเป็นต้องรวยระดับมหาเศรษฐีหมื่นล้าน ถึงมีความสุขสุด ๆ
คุณไม่จำเป็นต้องเป็นผู้นำโลก ถึงมีคุณค่าในชีวิต
ทุกคนล้วนมีแนวทางเติมเต็มคุณค่าในชีวิตในแบบฉบับของตัวเอง
“เพราะคุณคือ หนึ่งเดียวในโลก เพราะคุณคือ The One จงทำตัวเป็นหนึ่งเดียวที่คู่ควรกับคุณค่าในตัวคุณ”
7 กิจกรรม เร่งพลังความสำเร็จในตัวคุณ
1) ออกกำลังกาย 20 นาที / วัน
ผมแนะนำให้คุณออกกำลังกายช่วงเช้าดีที่สุด
คุณจะยืดเส้นยืดสาย หรือ คาร์ดิโอก็ได้แบบที่คุณชอบ
เพื่อให้ร่างกายเกิดการตื่นตัว เลือดสูบฉีด ปอดทำงานได้ดีขึ้น
มีงานวิจัยบ่งชี้ว่า คนที่ออกกำลังกายในตอนเช้า 20 นาทีขึ้นไป
จะส่งผลให้ร่างกายของเรา มีพลังงานต่อเนื่องไปอีก 12 ชั่วโมง
ข้อควรระวัง : ไม่ควรออกกำลังกายหักโหมจนเกินไป เพราะจะทำให้ร่างกายล้าแทน และเกิดการบาดเจ็บได้ในที่สุด
ควรออกกำลังกายแต่พอดี เอาแค่พอสดชื่น เหงื่อออก ทำให้ร่างกายตื่นตัวพอครับ กิจกรรมนี้จะช่วยคุณในเรื่องสมดุลชีวิตด้านสุขภาพ
2) จับดี
ผมอยากให้คุณฝึกการจับดี
แน่นอนเรื่องร้าย เรื่องดี เราพบเจออยู่ทุกวัน
แต่คุณเลือกได้ว่า คุณจะหาข้อดีจากเหตุการณ์ที่เราเจอได้อย่างไร
ผมเรียกว่า “การจับดี” ถ้าคุณหมั่นจับดีกับทุกเรื่อง กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัวของคุณ
เพื่อนร่วมงาน หัวหน้า เจ้านาย ลูกน้อง ลูกค้า แฟน คนรู้จัก คนไม่รู้จัก กับทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
พลังการจับดี จะส่งผลให้คุณพบแต่เรื่องราวดี ๆ กิจกรรมนี้จะช่วยคุณในเรื่องสมดุลชีวิตด้านสัมพันธภาพ อย่าลืมฝึกจับดีกันนะครับ
3) ทำสิ่งสำคัญก่อน
ทำสิ่งสำคัญก่อน ผมกำลังหมายถึง พลังแห่งการโฟกัส ตัดสิ่งรบกวนออกไปให้หมด แล้วลงมือทำสิ่งสำคัญให้เสร็จก่อนเป็นอันดับแรก
ฝรั่งจะเรียกช่วงเวลานี้ว่า “เวลาการทำงานทรงประสิทธิภาพ”
เมื่อไหร่ที่คุณฝึกทำกิจกรรมนี้บ่อย ๆ คุณจะกลายเป็นคนมีพลังแห่งการโฟกัส และไม่หลุดโฟกัสเหมือนที่แล้วมา
กิจกรรมนี้จะช่วยคุณในเรื่องสมดุลชีวิตด้านการงาน
4) จ่ายให้ตัวเองก่อน
จ่ายให้ตัวเองก่อน หมายถึง เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณได้รับเงิน ให้คุณแบ่งเงินจ่ายให้ตัวเองก่อน อย่างน้อย 10%
สำหรับเอาไว้ลงทุนให้เงินเติบโตงอกเงยมากยิ่งขึ้นในอนาคต เป็นการปลูกฝังนิสัยการจ่ายให้ตัวเองก่อน
“อย่าเรียนรู้การทำงานเพื่อเงินอย่างเดียว จงเรียนรู้ให้เงินทำงานให้คุณด้วย”
จำไว้ว่า คุณทำงานหนัก คุณยิ่งเหนื่อย เงินทำงานหนัก คุณยิ่งรวย กิจกรรมนี้จะช่วยคุณในเรื่องสมดุลชีวิตด้านการเงิน
5) นั่งสมาธิ 20 นาที
การนั่งสมาธิ เป็นการเข้าไปเชื่อมในสิ่งที่คุณเชื่อ คุณศรัทธา
พลังมหาศาลที่อยู่ในตัวคุณ จะเป็นเครื่องรับสัญญาณจักรวาลที่ยอดเยี่ยมที่สุด
จักรวาลจะส่งพลังงานดีๆ พลังแห่งความโชคดีมาให้คุณ
หน้าที่ของคุณคือ หลับตา นั่งสมาธิ มีสติ อยู่กับลมหายใจเข้า-ออก อยู่กับปัจจุบัน ง่ายๆเพียงวันละ 20 นาที
ชั่วโมงทองในการนั่งสมาธิคือ เวลาตี 4 ถึงตี 5 และก่อนเข้านอน กิจกรรมนี้จะช่วยคุณในเรื่องสมดุลชีวิตด้านจิตใจ
6) สนับสนุนผู้อื่น
จงใช้ศักยภาพของคุณ ความสามารถของคุณ ความเชี่ยวชาญของคุณ ทรัพยากรของคุณ สนับสนุนผู้อื่น กรณีที่คุณสามารถช่วยเหลือพวกเขาได้
แต่ถ้าคุณคิดว่า ฉันไม่มีอะไรเลย ฉันยังไม่ประสบความสำเร็จ ฉันยังไม่รวย ฉันจะสนับสนุนผู้อื่นได้ยังไง
ง่าย ๆ ครับ ให้คุณเริ่มจากส่งยิ้มให้ผู้อื่นก่อน พูดให้กำลังใจผู้อื่น พูดชมผู้อื่น ช่วยงานผู้อื่นด้วยใจ
สนับสนุนให้ผู้อื่นมีพลัง มีกำลังใจในการใช้ชีวิตต่อไป แบบนี้ก็ถือว่าเป็นการสนับสนุนผู้อื่น
เมื่อคุณส่งพลังความดีออกไป ท้ายสุดคุณจะได้รับสิ่งดีๆนั้นกลับมาเช่นกัน กิจกรรมนี้จะช่วยคุณในเรื่องสมดุลชีวิตด้านภารกิจ
7) ฟังเสียงหัวใจตัวเอง
ยกมือขวาทาบอก ฟังเสียงหัวใจตัวเองให้มากขึ้น สัมผัสเสียงที่ดังก้องในใจ หัวใจกำลังบอกคุณว่า… สิ่งที่ใช่คืออะไร สิ่งสำคัญคืออะไร คุณควรตัดสินใจกับเรื่องนี้อย่างไร
ที่ผ่านมา คุณฟังเสียงคนอื่นมาเยอะแล้ว แต่ชีวิตคุณก็ยังไม่ไปถึงไหน จนได้มาอ่านบทความนี้
ไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไมที่ผ่านมา คุณไปเข้าสัมมนาก็แล้ว ทำอะไรก็แล้ว แต่ชีวิตก็เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือหนี้สิน
เพราะอะไรทราบไหมครับ เพราะคุณไม่เคยฟังเสียงหัวใจตัวเอง คนอื่นอาจจะหลอกคุณได้
แต่คำตอบจากหัวใจไม่เคยหลอกคุณ ดังนั้น จงฟังเสียงหัวใจตัวเองตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แล้วคุณจะค้นพบคุณค่าในชีวิตที่แท้จริง