เป็นผู้นำตนเองที่ดีขึ้นได้ แค่ทำสิ่งนี้ในตอนเช้า
จากคนไม่ชอบออกกำลังกาย ผมนำตัวเองให้ลุกขึ้นมาวิ่งได้ รวมระยะทั้งปี 2562 กว่า 800 กิโลฯ
จากคนชอบกินตามใจปาก จนมีปัญหาสุขภาพ ผมนำตัวเองให้ใส่ใจการกินได้มากขึ้น จนเริ่มกลับมาแข็งแรง
จากคนฟุ้งซ่าน หลุดโฟกัสง่าย ไอเดียติดขัด ผมนำตัวเองให้โฟกัสงานสำคัญ และมีไอเดียที่ไหลลื่นได้ดีมากยิ่งขึ้น
แต่ผมก็ยังเป็นคนธรรมดาเหมือนคุณ ที่มีความขี้เกียจและติดสบายขับเคลื่อนอยู่ข้างในนั่นแหละครับ
และสิ่งที่ช่วยเปลี่ยนผมได้ นั้นก็คือ “การทำกิจกรรมง่าย ๆ ในช่วงเช้า”
Priming
ผมได้ยินเทคนิคที่จะช่วยให้เรานำตัวเองได้ จาก Anthony Robbins กูรูความสำเร็จอันดับต้น ๆ ของโลก
เทคนิคนี้เรียกว่า Priming
ในทางจิตวิทยา Priming คือ “ปรากฏการณ์ที่สิ่งเร้าหนึ่ง มีอิทธิผลต่อสิ่งเร้าที่ตามมา โดยที่เราไม่รู้ตัว”
เช่น หากเราได้ยินคำว่า “หมอ” เราก็จะรู้สึก ถึงคนเรียนเก่ง เห็นภาพคนใส่ชุดกาวสีขาว อยู่ในห้องตรวจรักษา
ในทางจิตวิทยาคำว่า Priming ได้ถูกอธิบายเอาไว้ค่อนข้างละเอียด แต่ในบทความนี้ ผมจะพูดถึง Priming ในแง่ของ “การเตรียมพร้อม”
เคยสังเกตไหมครับ…
เช้าไหนที่ตื่นมา แล้วอากาศไม่สดชื่น เจอเรื่องหงุดหงิดกวนใจแต่เช้า
วันนั้น คุณก็มีแนวโน้มว่าจะเจอเรื่องแย่ ๆ ไปตลอดทั้งวัน
แต่เช้าไหนที่ตื่นขึ้นมาแล้วสดชื่น อากาศปลอดโปร่ง เดินทางสะดวกสบาย
วันนั้น คุณก็มีแนวโน้มที่จะเจอเรื่องดี ๆ ไปตลอดทั้งวัน
เหมือนกับว่าบรรยากาศที่คุณเจอในตอนตื่นนอน มันกำลังบอกคุณให้ “เตรียมพร้อม” สำหรับประสบการณ์คล้ายกันนี้ ที่จะเกิดขึ้นไปตลอดวัน
“ดินฟ้า” VS “ความตั้งใจ”
แต่แทนที่จะปล่อยให้ดินฟ้าอากาศ หรือสภาวะแวดล้อม มากำหนดว่าเช้านี้ควรจะเป็นอย่างไร
Anthony Robbins สอนให้ผมเป็นผู้กำหนดเช้าวันใหม่ด้วยตัวของผมเอง
เพื่อช่วยปูทางเพื่อให้ผมสามารถนำตัวเองให้ทำสิ่งต่าง ๆ ได้ดีไปจนถึงเวลาเข้านอน
และสิ่งที่ผมทำในตอนเช้าเพื่อเตรียมความพร้อมก็คือ..
- นั่งสมาธิ
- กำหนดความตั้งใจในการใช้ชีวิต
- จินตนาการถึงชีวิตที่ต้องการ
- กล่าวขอบคุณสิ่งต่าง ๆ
- ออกกำลังกาย
- เรียนรู้พัฒนาตัวเอง (อ่านหนังสือ หรือฟังคลิป)
ผมใช้เวลาร่วมสำหรับทำสิ่งเหล่านี้ประมาณ 60 – 90 นาที
บ้าไปแล้ว!!
แต่จะบ้าเหรอ! เดิมก็ขี้เกียจอยู่แล้ว จะให้มาทำทั้งหมดนี้เพื่อที่จะหายขี้เกียจ มันดูย้อนแย้งอย่างบอกไม่ถูก
เพราะขี้เกียจ ก็คือไม่อยากทำอะไรเลย!!
ใช้เวลาแค่ไม่ถึง 5 นาทีก็พอ
บอกตามตรงเลยนะครับ
ตอนที่ผมเรียนรู้เรื่องนี้ครั้งแรกผมฟิตมาก แล้วก็ทำอยู่ประมาณ 1 เดือน
แล้วหลังจากนั้น ผมก็กลับมาสู่วงจรความขี้เกียจเหมือนอยู่ดี!
แต่ผมได้ค้นพบวิธีใหม่ที่ได้ผลต่อเนื่องยาวนานกว่า และสิ่งนั้นใช้เวลาแค่…
ไม่ถึง 5 นาที!!
วิธีก็คือ…
แทนที่จะพยายามทำทุกสิ่งให้ได้ตั้งแต่วันแรก ผมเริ่มต้นด้วยการทำสิ่งง่าย ๆ เพียง 1 สิ่ง!
สิ่งแรกที่ผมทำคือ…
การลุกขึ้นมา “นั่งหลับสมาธิ”
ตอนเช้าเมื่อตื่นนอน ผมจะดันตัวขึ้นมา นั่งหลับตาสัก 3 – 5 นาทีทุกเช้า
ผมนั่งไปเรื่อย ๆ บางวันก็เหมือนดันตัวเองขึ้นมานั่งหลับด้วยซ้ำ
แต่พอทำแบบนี้นานวันเข้า มันก็เริ่มกลายมาเป็นการนั่งสมาธิแบบรู้ตัวไปเอง
แล้วเรื่องอื่น ๆ ก็ค่อย ๆ เสริมตามมาภายหลัง
พอนั่งได้ต่อเนื่อง ผมก็เริ่มเขียนขอบคุณ เริ่มสวดมนต์อาราธณาศีล
เริ่มออกกำลังกาย เริ่มอ่านหนังสือหรือฟังคลิปความรู้
ดังนั้นกิจกรรมทั้งหมดที่ทำไปเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเป็นผู้นำตัวเองในวันนี้
เริ่มต้นจากการนำตัวเองให้ทำ “สิ่งเล็ก ๆ” และใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที จากวันวาน
แต่ทำน้อย ๆ มันจะไปช่วยอะไร?
ถ้าคุณยังคิดว่า…
“แต่การเริ่มต้นเช้าวันใหม่ ด้วยการทำอะไรเล็กน้อย มันไม่ช่วยอะไรหรอก และไม่รู้ว่านานเท่าไหร่มันถึงจะทำให้นำตัวเองได้สมบูรณ์เสียที”
ผมชวนให้คุณลองคำนวณเล่น ๆ ครับว่า…
การที่คุณเลือกที่จะไม่ทำสิ่งนี้ เพียงเพราะคิดว่า “ถ้าทำได้น้อยแค่นี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร”
คุณสูญเสียเวลากับความคิดนี้มานานเท่าไหร่?
และกับการเริ่มต้นทำอะไรบางอย่างง่าย ๆ สัก 3 – 5 นาทีในวันนี้
เพื่อที่คุณจะรู้สึกสนุกและทำได้มากขึ้นในอนาคต
แบบไหนที่ทำให้คุณเสียเวลา และไม่ช่วยอะไรมากกว่ากัน??
ประเด็นสำคัญไม่ใช่ว่า “คุณทำอะไร? ทำสมบูรณ์ไหม? ใช้เวลานานเท่าไหร่?”
แต่ประเด็นคือ “คุณเตรียมความพร้อมให้ชีวิตไปเจอกับอะไร?”
แล้วคุณอยากเริ่มต้นเช้าวันพรุ่งนี้ ด้วยการทำอะไรดีล่ะครับ?
ข้อมูลอ้างอิง:
https://en.wikipedia.org/wiki/Priming_(psychology)
https://www.betterhelp.com/advice/psychologists/what-is-priming-psychology-and-what-is-it-used-for/
Photo by Danielle MacInnes on Unsplash