คิดได้คมขึ้นแน่ แค่เปลี่ยนมาใช้เทคนิคนี้
# เปลี่ยน 1 เรื่องนี้ แล้วคุณจะคิดได้เฉียบคมขึ้น #
เคยไหมที่พยายามคิดอะไรบางอย่าง แล้วก็คิดไม่ออก หาทางออกไม่ได้
มันสับสนและรู้สึกวุ่นวายไปหมด ข้อมูลตีกันปั่นปวน ชวนให้อยากเลิกคิดไปเลยดีกว่า
สิ่งที่ทำให้คิดหาทางออกจากปัญหาหรือจากความท้าทายก็คือ…
การไม่สามารถตั้งโจทย์ “ที่กระตุ้นให้สมองทำงานเพื่อหาทางออกได้”
เหมือนจะชัด แต่ไม่ชัด
เมื่อพูดถึงความต้องการหรือทางออกของปัญหา
คนส่วนใหญ่มักจะคิดแต่ความคาดหวังกว้าง ๆ ที่ไม่ชัดเจน
เช่น “อยากไอเดียดี ๆ ในการเริ่มธุรกิจ”
คำว่า “ไอเดียดี ๆ” ก็เหมือนจะดี เพราะเป็นการตั้งคำถามเพื่อโฟกัสเพื่อไปข้างหน้า
แต่ “ไอเดียดี ๆ” ที่ว่านี้ มันต้องเป็นไอเดียยังไง ไอเดียในเรื่องอะไรล่ะ ถึงจะเรียกว่าดี?
พอมันไม่มีอะไรชัดเจน สมองก็ไม่รู้จะคิดอะไรต่อ มันคิดหาทางออกไม่ได้ ไม่รู้จะเริ่มต้นจากอะไร เพราะมันกว้างเกินไป
สมองจะคิดได้ดีขึ้นเมื่อ…
หนังสือ “คิดไม่ต้องเค้น” พูดถึงปัจจัยข้อแรก ที่จะทำให้สมองสร้างสรรค์ไอเดียได้อย่างไหลลื่น
นั่นก็คือ “การจดจ่อ”
การจดจ่อ คือสิ่งที่จะช่วยให้เราตั้งต้นให้ดี มีประเด็นในการคิดที่ชัดเจน
และยังช่วยกำหนดทิศทางให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
ชัดเจนจริงหรือเปล่า?
วิธีการที่จะช่วยให้เราจดจ่อกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้ดี ก็คือ…
“การตั้งโจทย์ที่ชัดเจน”
นักประดิษฐ์ชื่อชาร์ลส์ เอฟ. เคตเทอริง กล่าวว่า “การตั้งโจทย์ที่ชัดเจน ก็เท่ากับแก้ปัญหาไปแล้วครึ่งหนึ่ง”
แทนที่จะเริ่มคิดว่า “อยากได้ไอเดียดี ๆ ในการเริ่มธุรกิจ”
เราจะเห็นว่าการตั้งโจทย์นี้เหมือนจะชัดเจน
แต่มันยังชัดเจนไม่พอ เพราะมันสมองไม่รู้ว่าจะต้องคิดเรื่องอะไรในการเริ่มธุรกิจกันแน่
ช่วยสมองให้คิดคมขึ้น
เพื่อที่จะตั้งโจทย์ ให้สมองเราจดจ่อได้ดีขึ้น
เราต้องเปลี่ยนวิธีการตั้งโจทย์เป็น “ประโยคคำถามที่ระบุถึงความต้องการหรือเป้าหมายที่ชัดเจน”
ถ้าเราตั้งโจทย์ เพื่อให้สมองรู้อย่างชัดเจนขึ้นว่า
ไอเดียดี ๆ ที่ว่านั้นมันตอบโจทย์อะไร หรือธุรกิจที่เราคิดมันคือธุรกิจแบบไหน
สมองก็จะจดจ่อกับการคิดและผลิตไอเดียดี ๆ ได้มากขึ้น
ลองดูตัวอย่างเหล่านี้นะครับ
“ธุรกิจใหม่ของฉันจะต้องเป็นอย่างไร จึงจะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของฉันได้?”
“มีอะไรบ้างที่จะทำให้ฉันเริ่มธุรกิจใหม่ได้ใน 1 เดือนต่อจากนี้?”
“ด้วยต้นทุนที่ฉันมีอยู่ ฉันจะเริ่มต้นทำธุรกิจได้อย่างไร? มีโอกาสอะไรบ้าง?”
“มีใครที่จะให้คำแนะนำในการเริ่มธุรกิจได้บ้าง?”
“สิ่งที่ฉันทำได้ในวันนี้เพื่อจะเริ่มต้นธุรกิจ A คืออะไรบ้าง?”
“จากข้อมูลทั้งหมดที่ได้มา ฉันจะนำมาประยุกต์ใช้ในธุรกิจ A ได้อย่างไร?”
คุณลองย้อนกลับไปดูโจทย์ที่เหมือนจะชัดเจน ซึ่งตั้งมาก่อนหน้านี้เพื่อเปรียบเทียบดูสิ
โจทย์แบบไหนที่อ่านแล้ว กระตุ้นความคิดได้ง่ายกว่ากัน?
โจทย์ดี มีชัยไปกว่าครึ่ง
มีเทคนิคง่าย ๆ ที่ผมสอนในคอร์ส Self-Leadership ก็คือ
ให้ตั้งโจทย์ ให้อยู่ในรูปของประโยคคำถาม ที่มุ่งไปสู่เป้าหมายบางอย่างที่ชัดเจน เพราะจะทำให้สมองของเราจดจ่ออยู่กับสิ่งนั้นได้ดียิ่งขึ้น
ทำให้สมองรู้ว่า เรากำลัง “คิดอะไร” และ “เพื่ออะไร”
ยิ่งระบุได้ชัดเจนมากเท่าไหร่ สมองก็จะทุ่มพลังเพื่อจดจ่อได้มากขึ้นเท่านั้น
การที่คุณยังติดอยู่กับปัญหาต่าง ๆ และยังไม่สามารถแก้ไขปัญหา หรือเริ่มต้นอะไรได้สักที
อาจไม่ใช่เพราะคุณยังรู้ไม่พอ คุณยังไม่เก่งหรอก
แต่มันอาจจะเป็นเพราะคุณแค่ยังตั้งโจทย์ตั้งประเด็น ที่จะช่วยให้คุณเริ่มต้นทำอะไรบางอย่างไม่ได้เท่านั้นเอง
ฝึกตั้งโจทย์ให้ชีวิตง่ายขึ้น
ลองหยิบโจทย์ที่คุณกำลังคิดอยู่ในตอนนี้ขึ้นมา แล้วฝึกกำหนดประเด็นและตั้งโจทย์ที่ช่วยให้สมองของคุณจดจ่อกับการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งดูสิครับ
คุณอาจจะพบว่า…
ทางออกมันอยู่ใกล้แค่ปลายจมูกนี้เอง
สมองคุณมีศักยภาพมาก และก็พร้อมที่จะส่งทรัพยากรทุกอย่างมาให้คุณ
คุณแค่ต้องบอกสมองอย่างชัดเจนว่า “คุณต้องการอะไรกันแน่”
ติดตามผมผ่านช่องทางอื่นได้
Facebook > Kitti Trirat
YouTube > Kitti Trirat
Podcast > Kitti Trirat
** หากต้องการรับแจ้งเตือนบทความใหม่ทาง email สามารถกรอกอีเมล์ในช่องลงทะเบียนด้านล่างสุดของบทความนี้นะครับ
Resource:
Photo by Robina Weermeijer on Unsplash