สิ่งที่ได้มาฟรี มันมักจะไม่มีคุณค่า
เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ขณะที่ผมกำลังจะปิดรับสมัครผู้เรียนคอร์ส Self-Leadership
มีน้องคนหนึ่ง ทักมาถามผมว่า…
ผมคิดอยู่สักพักและไม่รู้อะไรดลใจให้ผมตอบตกลงกับน้องไป
เมื่อตกลงกันเรียบร้อย ผมก็ดึงน้องเขากลุ่มเรียนและแนะนำด้วยว่าจะต้องทำอะไรบ้าง
เมื่อเข้ามาในกลุ่ม น้องก็ร่วมทำกิจกรรมแรกทันที
ผมรู้สึกดีใจมากที่ได้สนับสนุน และน้องก็ดูกระตือรือร้นดี
มันไม่เป็นอย่างที่คิด
แต่ผมก็ดีใจได้เพียงไม่นาน
เพราะหลังจากนั้น ผมแทบไม่เห็นน้องเคลื่อนไหวในกลุ่มเลย
ไม่ว่าจะลงกิจกรรมอะไรไป ผมก็ไม่เห็นว่าน้องมาร่วมกิจกรรมเหมือนคนอื่น ๆ ที่ทำกิจกรรมกันอย่างเต็มที่
เอาจริง ๆ ผมก็รู้สึกผิดหวังเหมือนกัน
แต่เพราะต้องมาจดจ่อกับการให้ Feedback กับผู้เรียนคนอื่น ๆ ผมก็เลยไม่ได้โฟกัสกับประเด็นนี้สักเท่าไหร่
ผมคิดว่าน้องก็คงเงียบหายไป และสิ่งทีน้องพูดไว้มันก็คงจะไม่เกิดขึ้น
มันชัดเสียยิ่งกว่าชัดว่า…
“คนที่ไม่แลกอะไรบางอย่าง จะไม่เห็นคุณค่าของสิ่งที่พวกเขาได้มาฟรี ๆ”
ผมนึกย้อนกลับไปถึงประสบการณ์ที่ผมเคยสนับสนุนให้คนได้เรียนในคอร์สที่ผมสอน
บางคนบอกว่ากำลังมีปัญหา บางคนบอกว่าไม่มีเงิน ซึ่งผมก็สนับสนุนไปบ้างในบางโอกาส
ซึ่งบ่อยครั้งอีก ที่คนเหล่านั้น ก็ไม่ได้ตั้งใจเรียนรู้ในสิ่งที่ผมสนับสนุนจริง ๆ
เมื่อถึง 20 เมษายน
เมื่อเช้าวันที่ 20 เมษายนมาถึง
ผมก็ไม่ได้คาดหวังอะไร เพราะไม่เห็นน้องร่วมกิจกรรมอะไรในช่วงที่ผ่านมา
และก็คิดว่า มันไม่มีประโยชน์ที่จะต้องมาจ่ายค่าเรียนให้ผมตามสัญญา เพราะน้องก็ไม่ได้เรียนอะไร
แต่ในเช้าวันนั้นเอง
น้องทักมาหาผมใน Inbox
น้องขอเลขบัญชีของ และโอนเงินมาให้ตามที่น้องได้บอกเอาไว้
เกิดอะไรขึ้น?
เอาจริง ๆ ผมก็ งง เหมือนกันว่าทำไมน้องต้องโอนมา
ถ้าไม่ได้เรียนจะโอนมาทำไม ผมก็ไม่ได้ทวงถามอะไร จะเนียน ๆ หายไปก็ได้
แต่หลังจากที่น้องโอนเงินมา
ผมก็เข้าไปตรวจกิจกรรมต่าง ๆ ในห้องเรียนเหมือนปกติ และผมก็ได้เจอโพสต์นี้
ผมอ่านแล้วนิ่งไป รู้สึกเหมือนมีอะไรมาเคาะกะโหลกแรง ๆ
เพราะความหลงไปกับความคิดและจากประสบการณ์เก่า ๆ
ผมเผลอปล่อยใจไปตัดสินและคิดไปเองว่า น้องคงไม่ได้เรียน น้องคงไม่ได้สนใจจริง ๆ
เพียงเพราะน้องไม่ได้ทำในสิ่งที่ผมคิดว่าน้องควรจะทำหลังจากเข้ามาในกลุ่มแล้ว
วินาทีนั้นผมก็ได้รู้ว่า… “ความคิดที่ผมใช้ตัดสินน้อง มันเป็นเพียงภาพลวงตาที่ผมสร้างขึ้น”
สิ่งนี้สอดคล้องกับบทความที่เคยเขียนไว้ในบทความ กำแพงล่องหน ที่ทำให้มองไม่เห็นความจริงตรงหน้า
บทเรียนที่ผมได้
ผมรู้สึกขอบคุณคอมเมนต์และสิ่งที่น้องได้ทำวันนี้มาก ๆ
เพราะมันช่วยเตือนสติให้ผมกลับมารู้ตัวอีกครั้ง ว่าผมกำลังหลงเชื่อความคิดที่ผิดเพี้ยนอยู่
เหตุการณ์นี้ทำให้ผมต้องกลับมาคิดทบทวนกับตัวเองว่า…
“ยังมีเรื่องอะไรอีกบ้างนะ ที่ผมเผลอปล่อยให้ภาพลวงตามาบดบังและทำให้ผมมองไม่เห็นความจริง”
“มันมีกี่เรื่องกันนะ ที่ผมเผลอตัดสิน โดยไม่ได้เหลือพื้นที่ ให้ผมได้กลับมาคิดว่าผมอาจจะคิดผิดไปก็ได้”
น้องคนนี้อาจจะรู้สึกขอบคุณ ที่ผมได้มอบความรู้ดี ๆ หลายอย่างให้กับเขาในช่วงที่ผ่านมา
แต่ผมเองก็อยากจะขอบคุณน้องเช่นกันที่ทำให้ผมได้ตระหนักว่า…
“การที่เขาไม่ได้ทำสิ่งที่เราคิดว่าเขาควรทำ มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่ตั้งใจเหมือนอย่างที่เราคิด”
เขาอาจจะกำลังทำสิ่งที่สำคัญกว่าสิ่งที่เรากำลังคาดหวังให้เขาทำอยู่ก็เป็นได้!!
และอีกประเด็นที่ผมได้เรียนรู้ก็คือ…
“คนที่ไม่แลกอะไรบางอย่าง จะไม่เห็นคุณค่าของสิ่งที่พวกเขาได้มาฟรี ๆ”
และการแลกที่ทรงพลังมากอย่างหนึ่งก็คือ
“การแลกพลังกายและพลังใจของตนเอง เพื่อทำในสิ่งที่พูดไว้ให้เป็นจริง”
ติดตามผมผ่านช่องทางอื่นที่:
Facebook > Kitti Trirat
YouTube > Kitti Trirat
Podcast > Kitti Trirat
** หากต้องการรับแจ้งเตือนบทความใหม่ทาง email สามารถกรอกอีเมล์ในช่องลงทะเบียนด้านล่างสุดของบทความนี้นะครับ
Resource:
Photo by Andrew Bui on Unsplash